Personal Color คืออะไร

ค้นหาโทนสีที่ใช่ในการแต่งตัว ด้วยการทำ Personal Color

เคยไหมที่รู้สึกว่าเสื้อผ้าที่ซื้อมาใหม่สีสวยมาก แต่พอใส่แล้วกลับทำให้หน้าเราดูหมองคล้ำ ไม่สดใสเท่าที่ควร? หรือบางครั้งแต่งหน้าจัดเต็ม ใช้เครื่องสำอางเคาน์เตอร์แบรนด์ แต่ก็ยังรู้สึกว่าใบหน้าดูโทรม ไม่เปล่งปลั่งอย่างที่คิด ปัญหาเหล่านี้อาจไม่ได้เกิดจากเสื้อผ้าหรือเครื่องสำอาง แต่เกิดจากการเลือกใช้สีที่ไม่เข้ากับโทนสีผิวของเรานั่นเอง การเลือกสีที่ใช่จึงเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยขับออร่าและเสริมสร้างความมั่นใจให้เราได้อย่างไม่น่าเชื่อทในโลกของแฟชั่นและความงาม การเลือกสีสันที่เหมาะสมกับตัวเองเป็นมากกว่าแค่เรื่องของรสนิยม แต่เป็นศาสตร์และศิลป์ที่สามารถเปลี่ยนลุคของเราให้ดูโดดเด่นขึ้นมาได้ในทันที สีที่ถูกต้องจะช่วยขับให้สีผิวดูสว่างสดใส ดวงตาดูเป็นประกาย และทำให้ภาพรวมของเราดูมีชีวิตชีวา ในทางกลับกัน สีที่ไม่เข้ากันก็อาจทำให้เราดูเหนื่อยล้า ดูมีอายุเกินจริง และลดทอนความน่ามองลงไปอย่างน่าเสียดาย วันนี้เราจะพาทุกคนไปค้นหาโทนสีที่ใช่ของตัวเอง ผ่านศาสตร์ที่เรียกว่า Personal Color รวมไปถึงการแนะนำแหล่งจำหน่ายเสื้อผ้าคนอ้วนที่มีสไตล์หลากหลาย

ปัญหาการแต่งหน้า-แต่งตัว ที่หมองคล้ำและไม่สดใส

หลายคนคงเคยประสบกับความท้าทายในการเลือกซื้อเสื้อผ้า ลองแล้วลองอีกหน้ากระจก แต่ก็ยังไม่เจอสีที่ทำให้รู้สึกเข้ากับตัวเองสักที บางสีที่เห็นคนอื่นใส่แล้วสวยมาก แต่พอมาอยู่บนตัวเรากลับทำให้หน้าดูซีด ดูหมอง หรือเน้นให้เห็นรอยคล้ำใต้ตาชัดขึ้น ปัญหาโลกแตกนี้สร้างความหงุดหงิดใจและบั่นทอนความมั่นใจของใครหลายคน ไม่ใช่แค่เรื่องเสื้อผ้าเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการเลือกสีเครื่องสำอาง ไม่ว่าจะเป็นรองพื้น ลิปสติก หรือบลัชออน การเลือกสีผิดเบอร์อาจทำให้หน้าดูลอย ดูเทา หรือดูไม่เป็นธรรมชาติปัญหาส่วนใหญ่มักเกิดจากความไม่เข้าใจในโทนสีผิวที่แท้จริงของตัวเอง คนส่วนใหญ่มักแบ่งสีผิวแค่ขาวหรือคล้ำ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ภายใต้สีผิวเหล่านั้นยังมีสิ่งที่เรียกว่าอันเดอร์โทน (Undertone) ซ่อนอยู่ ซึ่งเป็นตัวกำหนดว่าสีโทนไหนที่จะส่งเสริมให้เราดูดีที่สุด การที่ไม่รู้จักอันเดอร์โทนของตัวเอง ก็เหมือนกับการพยายามต่อจิ๊กซอว์โดยที่ไม่มีภาพต้นแบบ ยิ่งพยายามมากเท่าไหร่ ก็อาจจะยิ่งหลงทางมากขึ้นเท่านั้น และนี่คือจุดที่ศาสตร์แห่ง Personal Color เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเป็นคู่มือค้นหาสีที่ใช่สำหรับคุณ

ทำความรู้จัก Personal Color ศาสตร์แห่งการค้นหาสีที่ใช่

Personal Color คืออะไรกันแน่? Personal Color หรือสีประจำตัว คือทฤษฎีการวิเคราะห์สีที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลโดยอิงจากสีตามธรรมชาติของคน ๆ นั้น ซึ่งได้แก่ สีผิว สีตา และสีผม ศาสตร์นี้เชื่อว่าทุกคนจะมีกลุ่มสีที่เมื่อนำมาใช้กับเสื้อผ้า เครื่องสำอาง หรือแม้แต่สีผม จะช่วยขับเน้นให้ใบหน้าดูสว่างสดใส สุขภาพดี ดูอ่อนเยาว์ และกลมกลืนไปกับสีผิวธรรมชาติของเรามากที่สุดหลักการสำคัญของ Personal Color คือการวิเคราะห์อันเดอร์โทนของผิว (Skin Undertone) ซึ่งโดยหลัก ๆ แล้วจะแบ่งออกเป็น 2 โทนสีคือ โทนเย็น (Cool Tone) และโทนอุ่น (Warm Tone) นอกจากนี้ยังมีโทนสีกลาง (Neutral Tone) ซึ่งสามารถเข้าได้กับทั้งสองโทน แต่ในทฤษฎีสีส่วนบุคคลจะมีการแบ่งที่ละเอียดและซับซ้อนยิ่งขึ้นไปอีก โดยเปรียบเทียบกับสีสันของธรรมชาติใน 4 ฤดูกาล เพื่อให้เห็นภาพและนำไปปรับใช้ได้ง่ายยิ่งขึ้น การเข้าใจใน Personal Color ของตัวเองจึงเปรียบเสมือนการมีสไตลิสต์ส่วนตัวที่คอยบอกเราเสมอว่าควรเลือกสีอะไรเพื่อดึงดูดความโดดเด่นในตัวเราออกมา

Personal Color มีกี่แบบ

ทฤษฎี Personal Color ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือการแบ่งตาม 4 ฤดูกาล (4 Seasons) ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ (Spring), ฤดูร้อน (Summer), ฤดูใบไม้ร่วง (Autumn), และฤดูหนาว (Winter) โดยแต่ละฤดูจะมีพาเลตต์สีเฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไป

1. ฤดูใบไม้ผลิ (Spring)

  • อันเดอร์โทน: โทนอุ่น (Warm Tone)

  • ลักษณะ: เป็นกลุ่มสีที่สดใส มีชีวิตชีวา เหมือนสีสันของดอกไม้และใบไม้ที่ผลิบานในฤดูใบไม้ผลิ จะมีความเจือสีเหลืองหรือสีทองผสมอยู่ ทำให้ภาพรวมดูสว่างและอบอุ่น

  • สีผิว: มักจะเป็นสีขาวอมเหลือง งาช้าง หรือสีเบจ อาจมีกระเล็กน้อย

  • สีตา: สีน้ำตาลอ่อน, สีเขียว, หรือสีฟ้าสว่าง

  • สีผม: สีน้ำตาลทอง, สีบลอนด์สตรอว์เบอร์รี, หรือสีน้ำตาลแดง

  • สีที่ใช่: สีโทนสว่างและสดใส เช่น สีพีช (Peach), สีคอรัล (Coral), สีเหลืองสด, สีเขียวแอปเปิ้ล, และสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ (Turquoise)

  • สีที่ควรเลี่ยง: สีที่หม่นและเข้ม เช่น สีดำสนิท, สีเทาเข้ม, หรือสีม่วงเข้ม

2. ฤดูร้อน (Summer)

  • อันเดอร์โทน: โทนเย็น (Cool Tone)

  • ลักษณะ: เป็นกลุ่มสีที่นุ่มนวล สบายตา เหมือนบรรยากาศของฤดูร้อนที่ถูกกรองด้วยแสงแดดอ่อน ๆ มีความเจือสีฟ้าหรือสีเทาผสมอยู่ ทำให้ภาพรวมดูละมุนและสง่างาม

  • สีผิว: มักจะเป็นสีขาวอมชมพู หรือสีเบจอมชมพู ผิวจะดูนุ่มนวล

  • สีตา: สีฟ้า, สีเทา, สีเขียวอมเทา, หรือสีน้ำตาลโทนเย็น

  • สีผม: สีบลอนด์สว่าง, สีน้ำตาลอ่อน, หรือสีน้ำตาลเทา (Ash Brown)

  • สีที่ใช่: สีโทนเย็นที่ดูนุ่มนวลและพาสเทล เช่น สีฟ้าเบบี้บลู (Baby Blue), สีชมพูกุหลาบ (Rose Pink), สีม่วงลาเวนเดอร์ (Lavender), และสีเขียวมินต์ (Mint Green)

  • สีที่ควรเลี่ยง : สีที่สดและฉูดฉาดเกินไป หรือสีโทนร้อนจัด เช่น สีส้มอิฐ, สีเหลืองมัสตาร์

3. ฤดูใบไม้ร่วง (Autumn)

  • อันเดอร์โทน: โทนอุ่น (Warm Tone)

  • ลักษณะ: เป็นกลุ่มสีที่เข้มข้น อบอุ่น และดูเป็นธรรมชาติ เหมือนสีของใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง มีความเจือสีทองแดงหรือสีส้มผสมอยู่ ทำให้ภาพรวมดูอบอุ่น ลุ่มลึก และดูเอิร์ธโทน

  • สีผิว: มักจะเป็นสีเบจโทนอุ่น, สีน้ำผึ้ง, หรือสีแทน

  • สีตา: สีน้ำตาลเข้ม, สีเฮเซล, หรือสีเขียวมะกอก

  • สีผม: สีน้ำตาลช็อกโกแลต, สีน้ำตาลแดงมะฮอกกานี, หรือสีทองแดง

  • สีที่ใช่: สีโทนอุ่นที่เข้มและจัดจ้าน เช่น สีส้มอิฐ (Burnt Orange), สีเขียวขี้ม้า (Olive Green), สีเหลืองมัสตาร์ด (Mustard Yellow), และสีน้ำตาลแดง (Terracotta)

4. ฤดูหนาว (Winter)

  • อันเดอร์โทน: โทนเย็น (Cool Tone)

  • ลักษณะ: เป็นกลุ่มสีที่สดชัด มีความคอนทราสต์สูง เหมือนทิวทัศน์ในฤดูหนาวที่หิมะขาวตัดกับท้องฟ้าสีเข้ม มีความเจือสีฟ้าเข้มหรือสีน้ำเงิน ทำให้ภาพรวมดูคมชัด โดดเด่น และดูโมเดิร์น

  • สีผิว: มีความหลากหลายตั้งแต่ขาวซีด, ขาวอมชมพู, ไปจนถึงผิวสีเข้ม แต่จะมีอันเดอร์โทนเย็น

  • สีตา: สีน้ำตาลเข้ม, สีดำ, หรือสีฟ้าเข้ม

  • สีผม: สีดำสนิท, สีน้ำตาลเข้มมาก, หรือสีเทาเงิน

  • สีที่ใช่: สีที่สดและเข้ม เช่น สีแดงสด (True Red), สีน้ำเงินรอยัลบลู (Royal Blue), สีเขียวมรกต (Emerald Green), สีชมพูบานเย็น (Fuchsia), รวมถึงสีเบสิกอย่างสีขาวและสีดำสนิท

  • สีที่ควรเลี่ยง: สีโทนอุ่นที่ดูหม่นหรือซีด เช่น สีเบจ, สีส้มอ่อน, สีน้ำตาลทอง

วิธีการเช็ก Personal Color ด้วยตนเองแบบคร่าว ๆ

หากคุณอยากลองทำ Personal Color ด้วยตัวเองเบื้องต้น เพื่อหาแนวทางว่าคุณน่าจะจัดอยู่ในกลุ่มไหน นี่คือวิธีดู Personal Color ง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ที่บ้าน

1. เช็กสีเส้นเลือดที่ข้อมือ

ให้หงายข้อมือขึ้นมาดูใต้แสงธรรมชาติ หากเส้นเลือดของคุณมีสีออกไปทาง สีม่วงหรือสีน้ำเงิน แสดงว่าคุณมีแนวโน้มที่จะเป็นโทนเย็น (Cool Tone) ซึ่งอาจจะเป็น Summer หรือ Winter แต่ถ้าเส้นเลือดมี สีเขียว แสดงว่าคุณมีแนวโน้มเป็นโทนอุ่น (Warm Tone) ซึ่งอาจจะเป็น Spring หรือ Autumn หากมองแล้วไม่แน่ใจว่าเขียวหรือม่วง เห็นเป็นทั้งสองสีปนกัน คุณอาจจะเป็นโทนสีกลาง (Neutral)

2. ทดสอบกับเครื่องประดับ

ลองนำเครื่องประดับสีทองและสีเงินมาทาบกับผิวของคุณ หากคุณใส่สีเงิน (Silver) แล้วขับผิวให้ดูสว่างสดใสขึ้น แสดงว่าคุณน่าจะเป็นโทนเย็น (Summer, Winter) แต่ถ้าคุณใส่สีทอง (Gold) แล้วดูขึ้นกว่า ดูผ่องกว่า แสดงว่าคุณน่าจะเป็นโทนอุ่น (Spring, Autumn)

3. ปฏิกิริยาของผิวต่อแสงแดด

ลองสังเกตว่าเวลาโดนแดด ผิวของคุณเป็นอย่างไร หากผิว คล้ำแดดยาก แต่จะแดงและแสบก่อน มักจะเป็นลักษณะของคนโทนเย็น ในขณะที่ถ้าผิว คล้ำแดดได้ง่าย เปลี่ยนเป็นสีแทนสวย มักจะเป็นลักษณะของคนโทนอุ่น

4. ทดสอบกับผ้าสีต่าง ๆ

วิธีนี้จะให้ผลที่ค่อนข้างชัดเจน ลองหาผ้าสีต่าง ๆ เช่น สีชมพูสด (โทนเย็น) กับสีส้มพีช (โทนอุ่น) มาลองทาบใกล้ ๆ ใบหน้าที่ไร้เครื่องสำอางใต้แสงธรรมชาติ แล้วสังเกตว่าผ้าสีไหนที่ทำให้ใบหน้าของคุณดูสว่างขึ้น รอยคล้ำใต้ตาดูจางลง และดูสดใสมีชีวิตชีวามากกว่ากัน สีนั้นแหละคือโทนสีที่ใช่สำหรับคุณ

การรู้ Personal Color ของตนเอง มีข้อดีอย่างไร

การสละเวลาเพื่อค้นหาและทำความเข้าใจใน Personal Color ของตัวเองนั้นให้ประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด ซึ่งจะช่วยเปลี่ยนประสบการณ์การแต่งตัวของคุณไปอย่างสิ้นเชิง

  • เสริมสร้างความมั่นใจ: เมื่อคุณสวมใส่สีที่ใช่ มันจะช่วยขับเน้นจุดเด่นบนใบหน้า ทำให้คุณดูสดใส สุขภาพดี และดูเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งแน่นอนว่ามันจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้คุณในทุก ๆ วัน

  • ประหยัดเงินและเวลาในการชอปปิง: การรู้ Personal Color ของตัวเองทำให้คุณมีไกด์ไลน์ที่ชัดเจนในการเลือกซื้อเสื้อผ้าและเครื่องสำอาง คุณจะตัดตัวเลือกที่ไม่จำเป็นออกไปได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูก และช่วยลดโอกาสการซื้อของมาเก็บไว้ในตู้โดยไม่ได้ใช้

  • สร้างสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์: คุณจะสามารถคุมโทนสีของตู้เสื้อผ้าให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันได้ง่ายขึ้น ทำให้การมิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อผ้าเป็นเรื่องสนุกและง่ายดาย สร้างลุคที่กลมกลืนและสะท้อนความเป็นตัวคุณได้อย่างชัดเจน

  • ดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดีขึ้น: สีที่ถูกต้องสามารถพรางริ้วรอยเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือความเหนื่อยล้าบนใบหน้าได้ ทำให้คุณดูสดชื่นและดูอ่อนกว่าวัยโดยไม่ต้องพยายาม

  • แต่งหน้าง่ายขึ้น: คุณจะรู้ทันทีว่าควรเลือกรองพื้น ลิปสติก หรืออายแชโดว์เฉดสีไหนที่จะทำให้หน้าดูไม่ดรอป ไม่หมองระหว่างวัน ทำให้การแต่งหน้าเป็นเรื่องง่ายและได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ

แนะนำแหล่งจำหน่ายเสื้อผ้าครบทุกรูปแบบ มีทุกขนาดที่ Krungthong Plaza

หลังจากที่คุณได้ค้นพบ Personal Color ของตัวเองแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะออกไปสนุกกับการชอปปิงเสื้อผ้าในโทนสีที่ใช่ และถ้าหากคุณกำลังมองหาแหล่งรวมเสื้อผ้าแฟชั่นที่มีให้เลือกครบทุกสไตล์ ทุกสีสัน และที่สำคัญคือมีทุกขนาด ตั้งแต่ไซส์เล็กไปจนถึงเสื้อผ้าสาวอวบไซส์ใหญ่ ที่กรุงทองพลาซา ประตูน้ำ ซอยเพชรบุรี 21 คุณจะได้พบกับร้านค้าเสื้อผ้าแฟชั่นมากมายที่อัปเดตเทรนด์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ ไม่ว่า Personal Color ของคุณจะเป็นสาว Spring ที่ต้องการสีสันสดใส, สาว Summer ที่มองหาโทนสีพาสเทลนุ่มนวล, สาว Autumn ที่หลงใหลในเอิร์ธโทน หรือสาว Winter ที่ต้องการสีที่คมชัดโดดเด่น ที่นี่มีให้คุณเลือกสรรอย่างจุใจแน่นอน นอกจากความหลากหลายของสไตล์และสีสันแล้ว จุดเด่นที่สุดของกรุงทองพลาซาคือเสื้อผ้าที่มีทุกขนาด โดยเฉพาะเสื้อผ้าคนอ้วน ทำให้ไม่ว่าคุณจะมีหุ่นแบบไหน ก็สามารถหาเสื้อผ้าสวย ๆ ที่เข้ากับ Personal Color และรูปร่างของคุณได้อย่างแน่นอน เปลี่ยนการแต่งตัวที่เคยน่าเบื่อให้กลายเป็นการแสดงออกถึงตัวตนที่เปล่งประกายและมั่นใจที่สุด แล้วมาค้นพบสไตล์ที่ใช่ในสีที่ชอบที่กรุงทองพลาซา ประตูน้ำ ซอยเพชรบุรี 21